” 6 โรคร้ายในไก่ไข่ที่ต้องระวัง และวิธีป้องกันรักษา และโปรแกรมวัคซีนสำหรับไก่ไข่ “

” 6 โรคร้ายในไก่ไข่ที่ต้องระวัง และวิธีป้องกันรักษา และโปรแกรมวัคซีนสำหรับไก่ไข่ “

บทนำ

  • ความสำคัญของการป้องกันโรคในฟาร์มไก่ไข่
    • ผลกระทบต่อเศรษฐกิจฟาร์ม
    • ต้นทุนการรักษาเมื่อเกิดโรค
    • การสูญเสียผลผลิต
  • ผลกระทบของโรคต่อผลผลิตและรายได้
    • การลดลงของปริมาณไข่
    • คุณภาพไข่ที่ด้อยลง
    • ค่าใช้จ่ายในการรักษา
  • หลักการพื้นฐานในการป้องกันโรค
    • การสังเกตอาการผิดปกติ
    • การจดบันทึกข้อมูล
    • การติดต่อสัตวแพทย์

1. โรคนิวคาสเซิล (Newcastle Disease)

  • สาเหตุและการติดต่อ
    • เชื้อไวรัสนิวคาสเซิล
    • การแพร่กระจายผ่านอากาศ
    • การติดต่อผ่านสิ่งปนเปื้อน
  • อาการที่พบ
    • อาการทางระบบหายใจ
    • อาการทางระบบประสาท
    • การลดลงของการกินอาหาร
    • อัตราการตายสูง
  • การป้องกัน
    • โปรแกรมวัคซีน
    • การกักกันสัตว์ใหม่
    • การควบคุมการเข้าออกฟาร์ม
  • การรักษา
    • การให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน
    • การให้วิตามินเสริม
    • การจัดการสภาพแวดล้อม
  • ช่วงเวลาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ
    • ฤดูฝน
    • ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
    • ช่วงที่มีการระบาดในพื้นที่

2. โรคหลอดลมอักเสบติดต่อ (IB)

  • สาเหตุและการติดต่อ
    • เชื้อโคโรนาไวรัส
    • การแพร่กระจายทางอากาศ
    • การติดต่อผ่านอุปกรณ์
  • อาการที่สังเกตได้
    • อาการทางระบบหายใจ
    • การหายใจลำบาก
    • น้ำมูก น้ำตาไหล
    • ไข่รูปร่างผิดปกติ
  • ผลกระทบต่อผลผลิตไข่
    • คุณภาพเปลือกไข่
    • รูปร่างไข่ผิดปกติ
    • ปริมาณผลผลิตลดลง
  • วิธีป้องกันและรักษา
    • การให้วัคซีนตามโปรแกรม
    • การควบคุมสภาพแวดล้อม
    • การจัดการอากาศในโรงเรือน

3. โรคอหิวาต์สัตว์ปีก (Fowl Cholera)

  • เชื้อสาเหตุ
    • เชื้อแบคทีเรีย Pasteurella multocida
    • ปัจจัยเสี่ยงจากสภาพแวดล้อม
    • ความเครียดในไก่
  • การแพร่ระบาด
    • ผ่านการกินน้ำและอาหารปนเปื้อน
    • การสัมผัสสิ่งขับถ่าย
    • สัตว์พาหะนำโรค เช่น หนู นก
  • อาการในไก่
    • ไข้สูง
    • เบื่ออาหาร
    • ท้องเสีย
    • หงอนและแข้งเขียวคล้ำ
    • อัตราการตายสูงในระยะเฉียบพลัน

4. โรคไข้หวัดนก (Avian Influenza)

  • ความรุนแรงของโรค
    • อัตราการป่วยสูง
    • อัตราการตายสูงมาก
    • ผลกระทบต่อการส่งออก
  • การติดต่อและการระบาด
    • การสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ป่วย
    • การปนเปื้อนในอากาศ
    • นกอพยพและสัตว์ป่า
  • มาตรการป้องกัน
    • ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพเข้มงวด
    • การกักกันบุคคลและยานพาหนะ
    • การฆ่าเชื้อทุกจุดเสี่ยง
    • การรายงานเมื่อพบความผิดปกติ

5. โรคมาเร็กซ์ (Marek’s Disease)

  • ลักษณะของโรค
    • เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่มเฮอร์ปีส์
    • มักพบในไก่อายุ 12-24 สัปดาห์
    • เป็นโรคที่ทำให้เกิดเนื้องอก
  • อาการที่พบ
    • อัมพาตที่ขาและปีก
    • ตาเปลี่ยนสี
    • ผิวหนังหนาตัวผิดปกติ
    • น้ำหนักลด ซูบผอม
  • การป้องกัน
    • วัคซีนในลูกไก่อายุ 1 วัน
    • การจัดการความสะอาดฟาร์ม
    • การคัดแยกไก่ป่วย

6. โรคหวัดหน้าบวม (Infectious Coryza)

  • สาเหตุของโรค
    • เชื้อแบคทีเรีย Avibacterium paragallinarum
    • การติดต่อผ่านละอองน้ำมูก น้ำตา
    • สภาพแวดล้อมที่เสี่ยง
  • อาการสำคัญ
    • หน้าบวม ตาบวม
    • น้ำมูกไหล
    • กินอาหารลดลง
    • ผลผลิตไข่ลดลง 10-40%
  • การรักษาและป้องกัน
    • การให้ยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำสัตวแพทย์
    • การควบคุมความชื้นในโรงเรือน
    • การแยกไก่ป่วย

การจัดการอาหารและน้ำเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน

  • อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน
    • วิตามิน A, D, E และ C
    • แร่ธาตุสำคัญ เช่น สังกะสี ซีลีเนียม
    • โปรไบโอติกและพรีไบโอติก
  • คุณภาพน้ำ
    • การตรวจสอบคุณภาพน้ำประจำ
    • การทำความสะอาดระบบน้ำ
    • การเติมคลอรีนในระดับที่เหมาะสม

การจัดการสภาพแวดล้อม

  • การควบคุมอุณหภูมิ
    • อุณหภูมิที่เหมาะสม 18-28°C
    • การระบายอากาศที่ดี
    • การป้องกันลมโกรก
  • ความชื้นสัมพัทธ์
    • ควบคุมที่ 60-70%
    • การลดฝุ่นในโรงเรือน
    • การจัดการวัสดุรองพื้น

การบันทึกข้อมูลและการเฝ้าระวัง

  • ข้อมูลประจำวัน
    • อัตราการกินอาหาร
    • ปริมาณการให้ไข่
    • อัตราการตาย
    • อุณหภูมิและความชื้น
  • การวิเคราะห์ข้อมูล
    • แนวโน้มการผลิต
    • สัญญาณเตือนความผิดปกติ
    • การประเมินประสิทธิภาพการผลิต

แผนฉุกเฉินเมื่อเกิดโรคระบาด

  • การเตรียมความพร้อม
    • ชุดอุปกรณ์ป้องกัน
    • ยาและเวชภัณฑ์สำรอง
    • แผนการทำลายซากที่ถูกวิธี
  • ขั้นตอนการปฏิบัติ
    • การแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    • การกักกันพื้นที่
    • การเก็บตัวอย่างส่งตรวจ

โปรแกรมวัคซีนสำหรับไก่ไข่

วัคซีนในระยะลูกไก่ (0-8 สัปดาห์)

อายุ 1 วัน

  • วัคซีนมาเร็กซ์ (Marek’s Disease)
    • ฉีดใต้ผิวหนังที่คอ
    • ป้องกันตลอดชีวิต
  • วัคซีนนิวคาสเซิล (ND) สเตรน B1
    • หยอดตาหรือจมูก
    • สร้างภูมิคุ้มกันเบื้องต้น

อายุ 7 วัน

  • วัคซีนหลอดลมอักเสบติดต่อ (IB)
    • หยอดตาหรือจมูก
    • สเตรน H120 หรือ MA5

อายุ 14 วัน

  • วัคซีนกัมโบโร (IBD)
    • ให้ทางน้ำดื่ม
    • สเตรนอ่อน (Intermediate)

อายุ 21 วัน

  • วัคซีนนิวคาสเซิล+หลอดลมอักเสบ (ND+IB)
    • หยอดตาหรือละอองฝอย
    • สเตรน La Sota+H120

อายุ 28 วัน

  • วัคซีนกัมโบโร (IBD) ครั้งที่ 2
    • ให้ทางน้ำดื่ม

วัคซีนในระยะไก่รุ่น (9-16 สัปดาห์)

อายุ 8 สัปดาห์

  • วัคซีนฝีดาษ (Fowl Pox)
    • แทงปีก
    • ป้องกันตลอดชีวิต
  • วัคซีนอหิวาต์สัตว์ปีก (Fowl Cholera)
    • ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ

อายุ 10 สัปดาห์

  • วัคซีนนิวคาสเซิล+หลอดลมอักเสบ (ND+IB)
    • ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
    • สเตรน La Sota+H120

อายุ 12 สัปดาห์

  • วัคซีนหลอดลมอักเสบติดต่อ (IB) variant
    • หยอดตาหรือจมูก
    • สเตรนที่เหมาะกับพื้นที่

อายุ 14-16 สัปดาห์

  • วัคซีนนิวคาสเซิล (ND) สเตรนฆ่าเชื้อ
    • ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
    • ให้ภูมิคุ้มกันระยะยาว

วัคซีนในระยะไก่ไข่ (17 สัปดาห์ขึ้นไป)

ทุก 3-4 เดือน

  • วัคซีนนิวคาสเซิล+หลอดลมอักเสบ (ND+IB)
    • ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือละอองฝอย
    • กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ทุก 6 เดือน

  • วัคซีนอหิวาต์สัตว์ปีก (Fowl Cholera)
    • ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
    • กระตุ้นซ้ำตามความเสี่ยง

ข้อควรระวัง

  1. ตรวจสอบวันหมดอายุของวัคซีน
  2. เก็บรักษาที่อุณหภูมิ 2-8°C
  3. ผสมและใช้วัคซีนให้หมดภายใน 2 ชั่วโมง
  4. หลีกเลี่ยงการให้วัคซีนในไก่ที่อ่อนแอหรือป่วย
  5. บันทึกการให้วัคซีนทุกครั้ง

การประเมินประสิทธิภาพวัคซีน

  • สุ่มตรวจระดับภูมิคุ้มกันทุก 3-6 เดือน
  • สังเกตปฏิกิริยาหลังให้วัคซีน
  • ติดตามอัตราการป่วยและตาย
  • ปรับโปรแกรมตามสถานการณ์โรคในพื้นที่

การจัดการฟาร์มเพื่อป้องกันโรค

  • ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ
    • การสร้างรั้วรอบฟาร์ม
    • บ่อน้ำยาฆ่าเชื้อ
    • การเปลี่ยนรองเท้าและชุดปฏิบัติงาน
    • การควบคุมการเข้าออก
  • การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ
    • ตารางการทำความสะอาดประจำวัน
    • การฆ่าเชื้อโรงเรือนระหว่างรุ่น
    • การจัดการขยะและของเสีย
  • โปรแกรมวัคซีนพื้นฐาน
    • วัคซีนสำหรับลูกไก่
    • วัคซีนระหว่างการเลี้ยง
    • การบันทึกประวัติการให้วัคซีน

การจัดการเมื่อพบการระบาด

  • ขั้นตอนฉุกเฉิน
    • การแยกไก่ป่วย
    • การกักกันพื้นที่
    • การแจ้งเจ้าหน้าที่
  • การรักษาและควบคุม
    • การให้ยาตามคำแนะนำสัตวแพทย์
    • การเพิ่มมาตรการสุขอนามัย
    • การติดตามอาการ
  • การฟื้นฟูหลังการระบาด
    • การทำความสะอาดครั้งใหญ่
    • การพักโรงเรือน
    • การปรับปรุงระบบป้องกัน

แหล่งข้อมูลและการติดต่อ

  • หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    • กรมปศุสัตว์
    • สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด
    • คลินิกสัตวแพทย์ในพื้นที่
  • เบอร์โทรฉุกเฉิน
    • สายด่วนกรมปศุสัตว์
    • สัตวแพทย์ประจำพื้นที่
    • ศูนย์วิจัยและชันสูตรโรคสัตว์

#ไก่ไข่ #โรคระบาด #วัคซีน #นิวคาสเซิล #มาเร็กซ์ #อหิวาต์สัตว์ปีก #ไข้หวัดนก #หวัดหน้าบวม #กัมโบโร #ฟาร์มไก่ #สัตวแพทย์ #ไข่ไก่ #ผลผลิตไข่ #โรงเรือน #ความปลอดภัยทางชีวภาพ

🐾 ราคาพันธุ์สัตว์ ประจำปี 2025

🐾 ราคาพันธุ์สัตว์ ประจำปี 2025


(ราคาประมาณการ ณ วันที่ 2 มกราคม 2025)

🐷 สุกร

  • ลูกสุกรขุน (น้ำหนัก 15-20 กก.): 2,800-3,200 บาท/ตัว
  • สุกรสาวทดแทน: 15,000-18,000 บาท/ตัว
  • พ่อพันธุ์: 45,000-60,000 บาท/ตัว

🐮 โคเนื้อ

  • ลูกโคนม: 18,000-25,000 บาท/ตัว
  • โคขุนพันธุ์ลูกผสม: 35,000-45,000 บาท/ตัว
  • แม่พันธุ์บราห์มัน: 60,000-80,000 บาท/ตัว

🐔 สัตว์ปีก

  • ไก่ไข่สาว: 180-200 บาท/ตัว
  • ไก่เนื้อพันธุ์: 45-50 บาท/ตัว
  • เป็ดไข่: 200-220 บาท/ตัว
  • เป็ดเนื้อ: 55-60 บาท/ตัว

🐐 แพะ

  • แพะพันธุ์เนื้อ: 8,000-12,000 บาท/ตัว
  • แพะนม: 15,000-20,000 บาท/ตัว

🦃 ไก่พื้นเมือง

  • ไก่ชน: 1,500-5,000 บาท/ตัว
  • ไก่พื้นเมืองพันธุ์แท้: 800-1,200 บาท/ตัว

📊 ปัจจัยที่มีผลต่อราคา:

  1. สายพันธุ์และคุณภาพ
  2. อายุและน้ำหนัก
  3. ความต้องการของตลาด
  4. ฤดูกาล
  5. ต้นทุนอาหารสัตว์

⚠️ หมายเหตุ:

  • ราคาอาจแตกต่างกันตามพื้นที่
  • ควรตรวจสอบสุขภาพสัตว์ก่อนซื้อ
  • ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด
  • ควรซื้อจากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน

ราคาพันธุ์สัตว์ #ปศุสัตว์ #เกษตรกรรม #ฟาร์ม2025

📊 ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม (ณ วันที่ 2 มกราคม 2025)

📊 ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม (ณ วันที่ 2 มกราคม 2025)

🐷 สุกรขุน น้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป:

  • ภาคตะวันตก 72-74
  • ภาคตะวันออก 72-76
  • ภาคอีสาน 74-76
  • ภาคเหนือ 77-79(ซ์้อขายจริง 72บาท)
  • ภาคใต้ 74
  • ลูกสุกรขุนเล็ก 16 กิโลกรัม : 2,100 บวกลบ 76

📈 แนวโน้มราคา:

  • เทียบกับสัปดาห์ก่อน: ↑ เพิ่มขึ้น 2-3 บาท/กก.
  • เทียบกับเดือนก่อน: ↑ เพิ่มขึ้น 5-6 บาท/กก.
  • เทียบกับปีก่อน: ↑ เพิ่มขึ้น 10-12 บาท/กก.

🔄 ปัจจัยที่มีผลต่อราคา:

  1. ความต้องการบริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่
  2. ต้นทุนอาหารสัตว์
  3. สถานการณ์โรคระบาด
  4. ปริมาณสุกรในตลาด

⚠️ หมายเหตุ:

  • ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด
  • ควรติดตามประกาศราคาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ราคาอาจแตกต่างกันตามพื้นที่และผู้ซื้อ

ราคาสุกร #ตลาดสุกร #ปศุสัตว์ #ราคาหมู2025

โรคระบาดสุกรที่สร้างความเสียหายในปี 2024 และแนวทางการป้องกัน

โรคระบาดสุกรที่สร้างความเสียหายในปี 2024 และแนวทางการป้องกัน

🐷 1. โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF)
[รูปภาพสุกรที่แสดงอาการผิวหนังมีจุดเลือดออก และม้ามโต]

อาการสำคัญ:

  • ไข้สูง (40.5-42°C)
  • ผิวหนังมีจุดเลือดออก โดยเฉพาะที่ใบหู ท้อง และขา
  • เบื่ออาหาร ซึม นอนสุม
  • อัตราการตายสูงถึง 100%

การป้องกัน:
🔵 ติดตั้งระบบพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่ทางเข้าฟาร์ม
🔵 จัดทำบ่อน้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับรถยนต์
🔵 พนักงานต้องอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนเข้าฟาร์ม

[รูปภาพระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์มสุกร]

🐷 2. โรค PRRS
[รูปภาพลูกสุกรที่แสดงอาการหายใจลำบาก และแม่สุกรที่แท้งลูก]

อาการสำคัญ:

  • แม่สุกรแท้งลูก
  • ลูกสุกรแรกคลอดอ่อนแอ
  • มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ
  • การเจริญเติบโตช้า

การป้องกัน:
🔵 ให้วัคซีนตามโปรแกรม
🔵 ควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือน
🔵 แยกสุกรป่วยออกจากฝูง

[รูปภาพการฉีดวัคซีนในสุกร]

🐷 3. โรคท้องร่วงติดต่อในสุกร (PED)
[รูปภาพลูกสุกรที่มีอาการท้องร่วง]

อาการสำคัญ:

  • ท้องร่วงรุนแรง
  • ขาดน้ำ
  • ซึม ไม่กินนม
  • อัตราการตายสูงในลูกสุกร

การป้องกัน:
🔵 รักษาความสะอาดคอกคลอด
🔵 ให้นมน้ำเหลืองอย่างเพียงพอ
🔵 ควบคุมการเข้า-ออกฟาร์ม

[รูปภาพการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรงเรือน]

แนวทางการจัดการฟาร์มที่สำคัญ:

  1. ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ
    [รูปภาพแผนผังระบบ Biosecurity ในฟาร์ม]
  • การควบคุมการเข้า-ออก
  • การฆ่าเชื้อ
  • การจัดการของเสีย
  1. การจัดการอาหารและน้ำ
    [รูปภาพระบบให้อาหารและน้ำที่ถูกสุขลักษณะ]
  • ควบคุมคุณภาพอาหาร
  • ระบบน้ำสะอาด
  • การเก็บรักษาที่เหมาะสม
  1. การเฝ้าระวังโรค
    [รูปภาพการตรวจสุขภาพสุกรโดยสัตวแพทย์]
  • ตรวจสุขภาพประจำวัน
  • บันทึกข้อมูลสุขภาพ
  • ประสานงานกับสัตวแพทย์

ข้อควรปฏิบัติเมื่อพบสุกรป่วย:
⚠️ แยกสุกรป่วยทันที
⚠️ แจ้งสัตวแพทย์
⚠️ เก็บตัวอย่างส่งตรวจ
⚠️ เพิ่มมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ

[รูปภาพการแยกสุกรป่วยในคอกพยาบาล]

การลงทุนในระบบป้องกันโรคถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการระบาดของโรค เกษตรกรควรให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคมากกว่าการรักษา